การรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง สำหรับคนกำลังผ่อนบ้าน?

หลายคนที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ อาจเริ่มสงสัยว่าทำไมดอกเบี้ยบ้านถึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนภาระการผ่อนต่อเดือนหนักกว่าที่คิดไว้ การ Refinance บ้านจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ภาระหนี้เบาลง การรีไฟแนนซ์บ้านคือการเปลี่ยนสัญญาสินเชื่อเดิม ไปใช้สัญญาใหม่ที่มีเงื่อนไขดอกเบี้ยที่ดีกว่า หรือย้ายไปยังธนาคารอื่นที่เสนออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า
ซึ่งการ การรีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ได้หมายถึงการผ่อนหนี้นานขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้ผู้กู้สามารถประหยัดดอกเบี้ยได้หลายแสนบาทในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์การเงินที่คนฉลาดทางการเงินมักเลือกใช้
สารบัญ
การรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร มีปะโยชน์อย่างไรบ้าง?

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์บ้านคือการเปลี่ยนเงื่อนไขสัญญาสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่เดิม อาจจะเป็นการเปลี่ยนธนาคาร หรืออยู่ธนาคารเดิมแต่ขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม จุดประสงค์หลักคือเพื่อลดดอกเบี้ย ผ่อนต่อเดือนให้น้อยลง และบางกรณีสามารถขอวงเงินกู้เพิ่มได้หากมูลค่าบ้านสูงขึ้น
- ลดภาระดอกเบี้ย – อัตราดอกเบี้ย Refinance บ้าน ที่ต่ำกว่า ช่วยให้ผู้กู้ประหยัดเงินได้มากเป็นหลักแสนบาท ยกตัวอย่างเช่น หากกู้บ้าน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยเดิมอยู่ที่ 6% ต่อปี แต่เมื่อรีไฟแนนซ์ไปธนาคารใหม่ที่เสนออัตรา 3% ต่อปี ส่วนต่างของดอกเบี้ยเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ อาจช่วยประหยัดได้มากกว่า 200,000 – 300,000 บาทตลอดอายุสัญญา ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สามารถนำไปลงทุนหรือออมต่อได้
- ผ่อนต่อเดือนสบายขึ้น – ยอดผ่อนลดลง ทำให้มีเงินเหลือไปใช้จ่ายด้านอื่น เพราะเมื่อดอกเบี้ยลดลง ยอดผ่อนชำระรายเดือนก็ลดลงตามไปด้วย ตัวอย่างเช่น จากเดิมต้องจ่ายเดือนละ 15,000 บาท อาจลดเหลือเพียง 11,000 – 12,000 บาทต่อเดือน เงินส่วนต่างที่เหลือสามารถนำไปใช้จ่ายในครอบครัว ลงทุน หรือเก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉินได้ ซึ่งช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นโดยไม่ต้องแบกรับภาระหนักเหมือนเดิม
- ปลดหนี้เร็วขึ้น – นอกจากจะเลือกผ่อนน้อยลงเพื่อความสบายใจแล้ว ยังสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ “ผ่อนเท่าเดิมแต่ดอกเบี้ยถูกลง” ได้ด้วย วิธีนี้ทำให้เงินที่จ่ายในแต่ละงวดไปตัดต้นมากขึ้น ส่งผลให้หนี้หมดเร็วกว่าเดิมหลายปี เช่น เดิมต้องผ่อน 25 ปี แต่หากรีไฟแนนซ์และเลือกผ่อนเท่าเดิม อาจทำให้หนี้หมดใน 20 ปี ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงินดอกเบี้ยจำนวนมาก
- ยืดหยุ่นทางการเงิน – การรีไฟแนนซ์ไม่ได้มีแค่การลดดอกเบี้ย แต่ยังเพิ่ม “ความยืดหยุ่น” ให้กับชีวิตการเงินของผู้กู้ บางคนอาจต้องการขยายระยะเวลาผ่อนเพื่อให้ภาระต่อเดือนลดลงอย่างชัดเจน ในขณะที่บางคนอาจต้องการลดระยะเวลาเพื่อเร่งปลดหนี้เร็วขึ้น การรีไฟแนนซ์ช่วยให้สามารถเลือกเงื่อนไขที่สอดคล้องกับเป้าหมายชีวิต เช่น เตรียมเกษียณไวขึ้น หรือมีเงินเหลือใช้ในปัจจุบันมากขึ้น
- กู้เพิ่มได้ – อีกหนึ่งประโยชน์ที่หลายคนอาจไม่รู้คือ “การรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารเดิมเพิ่มวงเงิน” ได้ หากราคาประเมินบ้านปัจจุบันสูงกว่ายอดหนี้ที่เหลือ เช่น บ้านเคยกู้ 2 ล้านบาท แต่ราคาตลาดขึ้นมาเป็น 3 ล้านบาท เมื่อรีไฟแนนซ์อาจสามารถขอกู้เพิ่มมาใช้เป็นทุนสำหรับซ่อมแซมบ้าน ลงทุน หรือหมุนเวียนทางธุรกิจได้ ซึ่งถือเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินอย่างชาญฉลาด
ขั้นตอนในการรีไฟแนนซ์บ้าน
หลายคนเข้าใจผิดว่าขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะหากใช้บริการแพลตฟอร์มเปรียบเทียบสินเชื่อ อย่าง Refinn ที่ช่วยทั้งเปรียบเทียบหาข้อเสนอที่ดีที่สุด พร้อมติดตามการดำเนินการทุกขั้นตอน ช่วยทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
1. ตรวจสอบสัญญาเดิมและยอดหนี้คงเหลือ
ก่อนยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน ผู้กู้ควรเช็กว่าเหลือหนี้กี่บาท ดอกเบี้ยที่ใช้อยู่ปัจจุบันเป็นเท่าไร และใกล้หมดโปรโมชันดอกเบี้ยคงที่หรือยัง เพราะหากยังไม่ถึงเวลา ธนาคารอาจคิดค่าปรับ
2. เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคาร
สิ่งสำคัญคือการเปรียบเทียบธนาคารรีไฟแนนซ์บ้านว่าที่ไหนให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด และมีค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านอย่างไรบ้าง เช่น ค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าอากรแสตมป์ หรือค่าจดจำนองใหม่
3. เตรียมเอกสารและยื่นขอสินเชื่อ
เอกสารรีไฟแนนซ์บ้าน ที่ใช้หลัก ๆ ได้แก่ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สัญญากู้เดิม สลิปเงินเดือน และ statement ธนาคาร หลังจากนั้นจึงทำการยื่นรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารที่เลือก
4. รอผลอนุมัติและทำนิติกรรมจดจำนองใหม่
เมื่อธนาคารพิจารณาและอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ขั้นตอนต่อมาคือการทำนิติกรรมที่กรมที่ดิน โอนจำนองจากธนาคารเดิมไปยังธนาคารใหม่
รีไฟแนนซ์บ้าน ลดดอกเบี้ย ปลดหนี้ไวกว่าเดิม
สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ การรีไฟแนนซ์บ้าน คือกลยุทธ์ทางการเงินที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้ารีไฟแนนซ์ถูกจังหวะ จะช่วยให้ดอกเบี้ย refinance ลดลงเป็นแสน และทำให้สามารถผ่อนสบายขึ้น หรือปลดหนี้บ้านได้ไวขึ้น